รายงานบีจ์บุ๊คของเฟดเปิดเผยผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากนโยบายภาษีของทรัมป์ รวมถึงการขึ้นราคาสินค้า การปลดพนักงาน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก รายงานนี้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เฟดอาจต้องตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เผยแพร่รายงานบีจ์บุ๊คในวันพุธ (23 เมษายน) ซึ่งส่งสัญญาณสำคัญว่า นโยบายเรียกเก็บภาษีของรัฐบาลทรัมป์กำลังสร้างปฏิกิริยาลูกโซ่ทั่วสหรัฐอเมริกา โดยทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง รายงานล่าสุดนี้อ้างอิงจากการสำรวจโดยธนาคารกลางภาคพื้นที่ทั้ง 12 เขต แสดงให้เห็นว่าธุรกิจและครัวเรือนกำลังพยายามรับมือกับความวุ่นวายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าอย่างฉับพลัน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของรายงานก่อนหน้านี้ (กล่าวถึง 80 ครั้ง) โดยมีการกล่าวถึงผลกระทบจากภาษี 107 ครั้ง
การแจ้งเตือนจากทุกภาคธุรกิจและความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อและการชะลอตัวเศรษฐกิจ
การซื้อสินค้าแบบโหมกระหน่ำและการสับสนเรื่องราคา
รายงานได้จับภาพของการ "ซื้อสินค้าแบบโหมกระหน่ำ" ก่อนการบังคับใช้ภาษี โดยผู้บริโภครีบซื้อรถยนต์นำเข้าและสินค้าอื่น ๆ แต่ผลที่ตามมาคือความสับสนในการกำหนดราคาของธุรกิจ — ผู้ผลิตเครื่องจักรในเขตธนาคารกลางชิคาโกต้องปรับราคาทุกวัน ผู้คั่วกาแฟในเขตธนาคารกลางริชมอนด์เผชิญกับ "การขึ้นราคาอย่างประวัติศาสตร์" และผู้ผลิตแผ่นโลหะประสบปัญหาขาดออร์เดอร์เนื่องจากภาษีเหล็ก
การหยุดการลงทุนและการเตรียมพร้อมสำหรับการปลดพนักงาน
หลายภูมิภาคเผชิญกับภาวะการตัดสินใจลงทุนชะงักงัน: ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางทหารยอมรับว่าสภาพแวดล้อม "วุ่นวายเกินไป" จนต้องระงับการลงทุน อุตสาหกรรมก่อสร้างคาดว่าความต้องการจะลดลงอย่างรุนแรงเนื่องจากต้นทุนภาษี สถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้นคือเขตธนาคารกลางแอตแลนตาและเซนต์หลุยส์รายงานว่าธุรกิจกำลังวางแผนปลดพนักงาน ในขณะที่เขตธนาคารกลางซานฟรานซิสโกยืนยันว่ามีการปลดพนักงานจริงในหลากหลายอุตสาหกรรม การปรากฏตัวของภาวะเงินเฟ้อและชะลอตัวเศรษฐกิจ (stagflation) เริ่มปรากฏ
เศรษฐกิจในภูมิภาคชะลอตัวลงอย่างพร้อมเพรียง
คลีฟแลนด์: อุตสาหกรรมก่อสร้างเคยเฟื่องฟูแต่คาดว่าความต้องการจะ "ตกหน้าผา"
ริชมอนด์: ธุรกิจเผชิญกับ "แรงกดดันต้นทุนอย่างยิ่งใหญ่" และความไม่แน่นอนของออร์เดอร์
ซานฟรานซิสโก: ความกดดันเรื่องราคาสินค้านำเข้าแพร่กระจายไปทั่วทุกภาคธุรกิจ
สรุป: เฟดเลือกที่จะรอคอย ความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
ในการตอบสนองต่อ "คลื่นช็อกภาษี" นี้ เฟดเลือกที่จะสังเกต แม้ว่าการประชุมในเดือนพฤษภาคมอาจคงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตลาดกำลังเดิมพันว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน การเตือนว่า "แนวโน้มอนาคตแย่ลงอย่างชัดเจน" ในรายงานบีจ์บุ๊ค รวมถึงความสำคัญที่นายพาวเวลล์ให้กับรายงานนี้ บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อมีการกล่าวถึงความไม่แน่นอนถึง 80 ครั้ง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เคยเป็นเหมือนรถไฟที่วิ่งเร็ว อาจถูกบังคับให้ดึงเบรกฉุกเฉิน
